ชื่อนั้นสามารถบอกอะไรเราได้บ้าง?
ซึ่งแน่นอนว่า ชื่อและนามสกุลนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงนิสัยใจคอ สุขภาพ สติปัญญา สภาพจิตใจ ชีวิตและความสัมพันธ์ภายในครอบครัว การเข้าสังคม ความโชคดีตลอดจน การประกอบอาชีพการงาน การเรียน และ การเงิน โดยเฉพาะชื่อที่ปรากฏอยู่ในเอกสารสำคัญของทางราชการต่าง ๆ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้านและอื่น ๆ ถ้าท่านเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาบารมีมาบ้างนั้น ท่านก็จะมีชื่อที่ถูกต้องตามโฉลกชีวิตของท่านได้ ถ้ามีชื่อที่ดีชีวิตของท่านก็จะประสบความสำเร็จได้ง่าย และถ้ามีนามสกุลที่ดีด้วย ก็ยิ่งจะมีความสำเร็จในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีก และถ้าชื่อและนามสกุลนั้นมีผลรวมของชื่อ นามสกุล ได้ผลรวมที่ดีด้วยนั้น ก็จะยิ่งประสบกับความสุข ความเจริญยิ่ง ๆขึ้นไปอีก รวมถึงต้องประกอบไปด้วยตัวอักษรที่ดี และส่งเสริมสำหรับคนๆนั้น แต่ถ้าชื่อ นามสกุลมีแต่อักษรที่เป็นกาลกิณี หรือมีอักษรต้องห้าม (ตามหลักทักษา) และค่ารหัสตัวเลขตกรหัสที่เสียด้วย ทั้งชื่อและนามสกุล และผลรวมตามหลักเลขศาสตร์ ท่านก็จะพบแต่อุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ทั้งด้านการงาน การเงิน ครอบครัวแตกแยก กำพร้าบิดามารดา เป็นหม้าย คู่ครองแตกแยก หรือตายจาก อุบัติเหตุ โรคเรื้อรัง มีศัตรู การค้าล้มละลาย ซึ่งบางท่านอาจจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงชื่อนี้ เป็นเรื่องที่ไร้สาระ ไม่จำเป็นหรือไม่น่าจะมีผลอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเปลี่ยนชื่อนี้เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้า นั้นยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ซึ่งพระองค์ได้เปลี่ยนชื่อ ให้กับบุตรชายของพราหมณ์ผู้หนึ่ง ซึ่งมีบุตรชายเพียงคนเดียว และมีสุขภาพที่ไม่ดีว่า “อายุวัฒฑโก” ทำให้บุตรชายนั้นมีสุขภาพดี อายุยืนนานถึง 120 ปี และในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.4) ซึ่งเป็นพระบิดาของโหราศาสตร์ไทยพระองค์ก็ได้กำหนดรหัสของตัวอักษรของชื่อไว้ ซึ่งได้มีการยึดถือและใช้กันต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้
สรรพศาสตร์การตั้งชื่อ หลักการตั้งชื่อ
ชื่อดี + ยามดวงดี = ยามดวงดีก็คว้าโอกาสไว้ได้ ทำอะไรจะสำเร็จ
ชื่อดี + ยามดวงตก = ยามดวงตกก็ชื่อจะช่วยอุ้มชูดวงไว้ได้บ้าง พออยู่ได้
ชื่อไม่ดี + ดวงดี = ยามดวงขึ้น ชื่อที่ไม่ดี จะไขว่คว้าโอกาสไว้ไม่ได้มาก จะพลาดโอกาส
ชื่อไม่ดี + ดวงไม่ดี = เมื่อดวงตก ชื่อที่ไม่ดี จะไม่สามารถช่วยรองรับดวงอะไรได้ จะติดขัด เกิดอุปสรรค ปัญหาตลอด